เจค ชิมาบูคูโร่ คิดอยู่เสมอว่า การเล่นดนตรีคืองานอดิเรกของเค้า “สำหรับผมแล้ว ดนตรีคือการเดินทาง” เจคกล่าว อัลบั้มล่าสุดของเจค (ณ ตอนที่เขียน) Dragon ตั้ง
ชื่ออัลบั้มตามฉายา บรู๊ซ ลี นักแสดงชื่อดังที่เสียชีวิตไปแล้ว
ขึ้นชาร์ตฮิตของญี่ปุ่น แต่เจคก็ยังคงปฏิเสธว่า เค้าไม่ใช่ดาราหรือคนดัง
ตั้งแต่ชาวโปรตุเกสนำอูคูเลเล่เข้ามาสู่เกาะฮาวายในปี 1879 ซึ่งต่อมามันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมฮาวาย เจค ชิมาบูคูโร่ นักดนตรีวัย 29 ปี จาก ไคมูคิ ได้ปฎิวัติคิดค้น และยกระดับเครื่องดนตรีไม้สี่สาย ที่เรียกว่าอูคูเลเล่ ให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
การเดินทางส่วนตัว
เป็นหรือไม่เป็น? นั่นคือคำถามที่เจคปฏิเสธว่า “ผมไม่คิดว่าผมเป็นดารา” เจคกล่าวว่า “สำหรับ
ผมแล้ว ดนตรีคือการเดินทางค้นหาตัวตน ผมพยายามที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
ทั้งในฐานะนักดนตรี และในฐานะปุถุชนคนธรรมดา
มันคือการเรียนรู้เกี่ยวกับตัวตนของผมเอง และการเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง
ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่ท้ายที่สุดแล้วก็คือ ผมรักดนตรี”
นักดนตรีที่รักความเพอเฟ็กซ์
“ผมไม่ใช่คนที่เล่นเก่งตั้งแต่เกิด หรือเก่งโดยธรรมชาติ” เจคกล่าว พร้อมกับหัวเราะ “จริง ๆ แล้ว ผมเป็นคนที่เรียนรู้ช้า” เจคเคยไปเรียนอูคูเลเล่ กับ รอย ซาคูม่า ในขณะที่นักเรียนคนอื่น ๆ ฝึกฝนเพลงทั้งเพลง เจคจะพยายามที่จะเล่นเพลงแต่ละเพลง โดยฝึกทีละท่อนย่อย “ใน
ชั้นเรียน นักเรียนคนอื่นสามารถเล่นเพลงได้ทั้งเพลงตั้งแต่ต้นจนจบ
แต่ผมสามารถเล่นได้แค่เพียงบางท่อน
แต่เป็นท่อนที่ผมฝึกเล่นจนคิดว่ามันสมบูรณ์แบบสุด ๆ
ผมเป็นคนที่รักความเพอร์เฟ็กซ์
นั่นก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่าผมใช้เวลาเรียนค่อนข้างนานในแต่ละเพลง”
24-7-365
ตามคำกล่าวอ้างของเจค เจคมีอูคูเลเลอยู่ข้างกายตลาด 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ และ 365 วันในหนึ่งปี “จะว่าไปแล้วก็คืออูคูเลเล่ ไม่เคยห่างกายผมเลย” แม่ของเจคแนะนำให้เจครู้จักกับเครื่องดนตรีไม้สี่สายนี้ตั้งแต่เค้าอายุได้แค่ 4 ขวบ ใครเลยจะรู้ว่ามันจะกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเค้า แม่ของเจคยังเป็นครูคนแรกของเค้าที่โรงเรียนอนุบาล อลาไว “ผมโตขึ้นด้วยความเคยชินกับการฝึกฝนอูคูเลเล่อย่างน้อยวันละ 4 ชั่วโมง ผมจะฝึกซัก 2 -3 ชั่วโมง หลังจากกลับจากโรงเรียน แล้วก็อีก 1-2 ชั่วโมง หลังอาหารเย็น” ทุก
วันนี้ตารางทำงานของเจคนั้นค่อนข้างแน่น แต่ก็ยังคงเหลือเวลาให้เค้า วันละ
หนึ่ง ถึง ห้าชั่วโมง ที่จะฝึกฝนอูคูเลเล่
สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือ อูคูเลเล่ไม่เคยห่างกายเค้าเลย
ออกเดินทางอีกแล้ว
เจคเคยหยุดพักหรือไม่? ในปี 2005 เจคออกทัวร์ถึง 8 เดือน ภายในปีนั้น (แต่ไม่ได้ออกทัวร์ติดต่อกันตลอด) ซึ่งนับจำนวนรัฐที่เค้าไปได้ถึง 30 รัฐทั่วอเมริกา ด้วยตารางทัวร์ที่อัดแน่นขนาดนั้น เจคเหลือเวลาว่างสำหรับตัวเองน้อยเต็มที “ปีที่แล้วเป็นปีที่ผมยุ่งที่สุดที่เคยเจอมา ในหนึ่งสัปดาห์ คุณสามารถตื่นขึ้นมาในรัฐต่าง ๆ กันถึง 6 รัฐ
และตื่นขึ้นมาในที่ต่าง ๆ กันอย่างนี้ไปตลอด บางครั้งผมตื่นขึ้นมา
แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เพราะผมมึนงงกับอาการเจ็ตแล็ก
(เหนื่อยล้าจากการเดินทาง) โดยทั่วไปแล้วผมจะไปแต่ที่สนามบิน โรงแรม
และก็ที่ที่ผมต้องแสดง มันเป็นอย่างนี้เมืองต่อเมือง
และก็เป็นเหมือนกิจวัตรประจำที่ผมต้องทำอยู่ตลอด
มันเป็นสิ่งที่ผมต้องต่อสู้ด้วยตลอดเวลา”
ลดช่องว่าง
เจคขึ้นเวทีที่ญี่ปุ่นอย่างน้อยปีละ 5 ครั้ง และเขาก็ยอมรับว่าดนตรี และวัฒนธรรมญี่ปุ่น มีอิทธิพลสำคัญในดนตรีของเขาในช่วงสองปีให้หลัง “ผม
เรียนรู้อะไรมากมากยจากดนตรีญี่ปุ่น และมีนักแสดงหลายคนที่ผมชื่นชอบ
การได้ไปที่ญี่ปุ่นทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งถึงวัฒนธรรมของเราเองมากยิ่งขึ้น
และมันก็ทำให้ดนตรีของผมพัฒนาขึ้นด้วย” การ
ได้ฟังนักดนตรีกีตาร์ของญี่ปุ่นอย่างเช่น ชา และ ฮารูฮาตา
เป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ทำให้เจคก้าวพ้นขีดจำกัด และต้องการทดลองสิ่งใหม่ ๆ
แฟนเพลงในญี่ปุ่น
“คน
ญี่ปุ่น รู้สึกชื่มชมวัฒนธรรมของฮาวาย ทุกคนที่ญี่ปุ่นช่างสุภาพ
และน่าเคารพ ถ้าพวกเค้าไม่รู้จักคุณมาก่อน
เค้าก็จะไม่กล้าปรบมือเสียงดังจนเกินไป โดยทั่วไปแล้ว
แฟนเพลงญี่ปุ่นจะเป็นคนขี้อาย เมื่อเทียบกับแฟนเพลงอเมริกัน
แฟนเพลงญี่ปุ่นจะร้องไห้ระหว่างที่ผมแสดง และเมื่อพวกเค้ามาขอลายเซ็นต์
ก็จะร้องไห้ และก็สั่นไปหมด” แต่แฟนเพลง
ชาวอเมริกันนั้นกลับตรงกันข้าม
พวกเขาจะมีลักษณะเหมือนกับเจคที่อยู่ในการแสดง
นั่นก็คือพวกเขาจะเต็มไปด้วยพลัง
แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนเพลงทั้งสองกลุ่มมีเหมือนกัน
ก็คือความรักในดนตรีที่สุดแสนจะพิเศษของเจค และเมื่อเจคอยู่ที่ญี่ปุ่น
เค้าสามารถทานอาหารโปรดของเค้าก็คือ ซูชิ นั่นเอง
ไสยศาสตร์ความเชื่อ
นักแสดงส่วนใหญ่มักจะมีความเชื่อทางไสยศาสตร์ นักกีฬา นักแสดง นักร้องหรือนักดนตรี มักจะมีการทำพิธีกรรมอะไรบางอย่างก่อนขึ้นแสดงบนเวที “ผม
ไม่ใช่คนประเภทที่งมงายเชื่อในไสยศาสตร์ ก่อนการแสดง
ผมจะยืดนิ้วอยู่หลังเวที และก็วอร์มอัพด้วยการเล่นซักเพลง สองเพลง
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมจะต้องทำเป็นกิจวัตรประจำ” สิ่ง
หนึ่งที่มีอยู่เป็นอยู่ประจำตลอดการซ้อม และการแสดงของเจค ก็คือ
อูคูเลเล่เทนเนอร์สี่สาย ที่ทำจากไม้โคอา
และเป็นรุ่นสั่งทำพิเศษให้เข้ากับการเล่นที่รวดเร็วของเจค
โดยบริษัทผลิตอูคูเลเล่ “คามาค่า” เจคสะสมอูคูเลเล่อยู่ไม่มากไม่มายโดยมีอยู่ทั้งหมด 5 ตัว
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเค้าจะชอบเป็นพิเศษอยู่เพียงแค่ตัวเดียว
สำหรับแฟนบางคน เจคอาจจะดูเหมือนเป็นคนที่ค่อนข้างเลือกมากเป็นพิเศษ
เจคกล่าวว่า “ผมชอบที่จะให้ทุกอย่างออกมาคงที่ ผมอยากให้เสียงในขณะที่ผมแสดง เป็นเสียงเดียวกับที่ผมใช้ในการซ้อม”
โปรดติดตามตอนต่อไป
ที่มา: baanukulele.com.com
ติดต่อได้ที่ บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์
ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152,
(66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th