วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556

อูคูเลเล่: Black Label (KoAloha Custom Made : Raiatea) 2



อูคูเลเล่ตัวนี้ มีอะไรพิเศษ? ตอน2
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
baanukulele.com

รายละเอียดของอูคูเลเล่ตัวนี้ ประกอบไปด้วย

1.
ไม้หน้า Spruce ให้เสียงพุ่งใสกังวาน

2.
ไม้หลังและไม้ข้าง Macassar Ebony สีดำที่มีลวดลายไม้เป็นริ้วเพิ่มความสวยงามและเอกลักษณ์

3.
คอทำจาก Honduran Mahogany น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง

4.
ขอบ Binding ทำจาก Curly Koa ไม้พื้นเมืองเกรดสูงสุดที่มีเฉพาะที่ฮาวาย ตัดขอบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

5.
ส่วนหัวเสริมด้วย Macassar Ebony สีดำ ตัดกับโลโก้ของ Custom KoAloha ที่ไม่เหมือนโลโก้ของ KoAloha รุ่นทั่ว ๆ ไป เพราะทำด้วย Mother of Pearl และเป็นโลโก้ KoAloha ติดปีกที่มีเฉพาะสำหรับรุ่น Custom เท่านั้น

6.
ป้ายยี่ห้อภายในเป็นสีดำ รูป KoAloha ติดปีก หรือที่รู้จักกันในวงการว่า Black Label พร้อมลายเซ็นต์ของ Paul ผู้สร้าง

7. Inlay
ทำจากไม้สัญลักษณ์รูปดอกไม้ของ Raiatea

อูคูเลเล่ Black Label ของ KoAloha จัดว่าเป็นรุ่นที่หายากมากถึงมากที่สุดในวงการอูคูเลเล่ เพราะมักจะถูกทำขึ้นมาเพื่อให้กับศิลปินที่เป็นนักดนตรีมืออาชีพเท่านั้น และไม่บ่อยครั้งนักที่ผู้เล่นอูคูเลเล่ทั่วไปหรือนักสะสม จะมีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของ ปัจจุบัน Paul ไม่รับงาน Custom order และถ้ารับก็จะต้องรอไปถึง 2-3 ปีเลยทีเดียว เพราะความต้องการอูคูเลเล่นั้นหลั่งไหลมาจากทุกทิศทั่วโลก ไม่เพียงแต่ประเทศไทย

สำหรับแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญในงาน Before Zero ในวันที่ 28 สิงหาคมที่ร้าน Spring Summer สุขุมวิท 49 นอกจากจะได้มีโอกาสสัมผัสอูคูเลเล่ระดับโลก และร่วมทำบุญด้วยการประมูลอูคูเลเล่ Custom KoAloha ยังจะได้พบกับตัวจริงของ Paul Okami ที่จะมาสาธิตการทำอูคูเลเล่สด ๆ บนเวที และรับชมมินิคอนเสิร์ตจาก Herb Ohta Jr. รวมถึงรับชมภาพยนตร์ KoAloha Story ภาพยนตร์ชนะการประกวดรางวัลหลายสถาบัน ที่จะย้อนประวัติการก่อร่างสร้างตัวจากธุรกิจล้มละลายสู่แบรนด์ KoAloha อูคูเลเล่ชั้นนำของโลก และการแจกของรางวัลมากมายภายในงาน พบกับกิจกรรมดี ๆ ที่บ้านอูคูเลเล่จัดให้กับแฟน ๆ คนรักอูคูเลเล่ได้ตลอดทั้งปีครับ งานนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น 

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
ติดต่อได้ที่
บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

อูคูเลเล่: Black Label (KoAloha Custom Made : Raiatea) 1




อูคูเลเล่ตัวนี้ มีอะไรพิเศษ? ตอน 1
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
baanukulele.com 

เพราะอูคูเลเล่ตัวนี้ เป็นของนักร้องสาวชื่อดังจากฮาวาย Raiatea Helm และมีเพียง 2 ตัวบนโลกเท่านั้น!!

Raiatea Helm & Custom KoAloha  
Raiatea เป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของฮาวาย ในปี 2006 เธอเป็นนักร้องหญิงคนแรกของฮาวาย ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ในขณะที่มีอายุแค่ 21 ปี กับผลงานของอัลบั้มที่ชื่อว่า Sweet and Lovely

Raiatea ได้รับรางวัลจากสถาบันต่าง ๆ มากมาย ในสาขาเพลงฮาวายเอี้ยน และเพลงแจ๊ส เธอได้รับรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยมของฮาวาย 2 ครั้ง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่ 2 ครั้ง และได้รับรางวัล Na Hoku Hanohano Awards ซึ่งเทียบได้กับรางวัลแกรมมี่ของฮาวาย ในสาขาต่าง ๆ ถึง 8 ครั้งด้วยกัน ทุกอัลบั้มที่ออกสู่สาธารณะ นอกจากผู้ฟังจะได้ยินเสียงหวานใสของเธอแล้ว ยังดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงจากอูคูเลเล่ที่สอดแทรกความเป็นฮาวายได้อย่างกลม กล่อม

อูคูเลเล่ที่เธอใช้ในการบันทึกเสียง และประกอบการแสดงบนเวที ย่อมหนีไม่พ้น KoAloha รุ่นพิเศษที่ออกแบบให้เธอเท่านั้น เป็น Custom made ที่ทำขึ้นเพื่อเธอคนเดียว โดย Master Luthier ของ KoAloha ผู้มีนามว่า Paul Okami ผู้ที่สร้างอูคูเลเล่ให้กับศิลปินชื่อดังต่าง ๆ มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอูคูเลเล่ของ Herb Ohta Jr., Daniel Ho ศิลปินรางวัลแกรมมี่, Iwao เซียนอูคูเลเล่จากญี่ปุ่น, Victoria Vox, Brittni Paiva, Manoa DNA หรือแม้แต่ Roy Sakuma ครูสอนอูคูเลเล่ที่ดังที่สุดในฮาวาย ก็ยังเลือกใช้ KoAloha ฝีมือของ Paul

อูคูเลเล่ตัวนี้จึงมีความพิเศษสุด ๆ เพราะมีเพียง 2 ตัวบนโลกเท่านั้น ที่มี Inlay หรือลวดลายสลักรูปดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของ Raitea อยู่ด้านข้างของ Sound Hole ตัวที่หนึ่งนั้นอยู่ในมือของ Raiatea และตัวที่สองอยู่ที่ประเทศไทย และจะถูกนำขึ้นประมูลภายในงาน Before Zero ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ Baan Ukulele (บ้านอูคูเลเล่) และ KoAloha หนึ่งในแบรนด์อูคูเลเล่ที่ดีที่สุดของโลก รายได้จากการประมูลหลังจากหักค่าใช้จ่าย จะถูกนำไปบริจาคให้กับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็ง

สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
ติดต่อได้ที่
บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

อูคูเลเล่: หนทางสู่การเป็นเซียน Uke แบบเซียนพระ ตอนที่ 1

ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมานี้ นอกจากงานที่หนักหน่วง เครียด กดดันแล้ว ก็ยากจะหาเวลาที่จะมีความสุขแบบนิ่งๆไม่ได้เลย ความสุขแบบนิ่งๆสำหรับเรา ให้นึกถึงสมัยเด็กๆที่นอกจากเวลาเรียนหนังสือ หลายๆคนก็จะมีงานอดิเรกนิ่งๆ เช่น อ่านการ์ตูน ต่อโมเดล สะสมสติกเกอร์ อะไรเทือกๆนั้น งานอดิเรกพวกนี้มักทำให้เราอยู่นิ่งๆ และมีความสุขได้แบบหัวใจพองโต.

ในวัยที่อายุมากขึ้นๆก็เหมือนกัน เราก็ควรจะหาความสุขแบบนิ่งๆเหมือนสมัยเด็กๆให้หัวใจมันพองโตกันหน่อย หนีความวุ่นวายจากงาน ที่หนักๆ เครียดๆได้ แล้วเราก็เลยได้พบว่า นอกจากการเล่น อูคูเลเล่ มันจะสนุกแล้ว การที่เราศึกษาข้อมูล อูคูเลเล่ เก่าๆแล้วเฝ้าดูของตาม eBay มันเป็นความสุขแบบนิ่งๆเหมือนสมัยเด็กๆเลยทีเดียว เพราะอะไร…? ก็เพราะว่า อูคูเลเล่ เก่าๆ มันเหมือนงานศิลปะ ที่มีปริศนาให้ค้นหา ให้เดา ว่าไอ้ตัวนี้มันผลิตเมื่อปีไหน? ใช้วัสดุอะไร? คนขายมันหลอกหรือเปล่า? ซึ่งจากความสนุกที่ว่ามานี้ มันทำให้เราเข้าใจความสุขของเซียนพระได้ ว่าอ่อ.. ไอ้ที่ต้องซื้อหนังสือพระ ต้องนั่งส่องดูเนื้อพระกันทั้งวันทั้งคืนนี่มันเป็นยังไง? การที่เรารู้ได้ว่า องค์นี้ผลิตด้วยเนื้ออะไร? ปีไหน? ของเก๊มั๊ย? มันเป็นความภูมิใจแบบนี้นี่เอง…

นั่นคือที่มาของความคิดเรื่อง การหาหนทางสู่การเป็นเซียนอูคูเลเล่ แบบเซียนพระ ใน วันนี้ มันคงสนุกดี ถ้าเราสามารถดูรุ่น อูคูเลเล่ เก่าๆที่ฝรั่งก็มั่วๆเอามาขาย เขียนโฆษณาเกินจริง ปั่นราคา ได้ เสมือนกับเซียนพระตามท่าพระจันทร์ เราก็เลยค่อยๆอ่าน ค่อยๆเก็บความรู้ไปเรื่อยๆ ลองถอยมาดูสักตัวสองตัว ตอนนี้ก็พอจะมีความรู้ขึ้นมาบ้างแล้ว เลยอยากเอามาแชร์กับใครก็ได้ที่รัก อูคูเลเล่  ทั้งใหม่ ทั้งเก่า ใครอ่านไม่รู้เรื่องเชิญข้ามได้เลยนะครับ เพราะอาจจะลงลึกกว่าทุกบล็อคที่เขียนมา

วันนี้จะลองเขียนตอนแรกดู โดยที่จะเริ่มจาก อูคูเลเล่ ยี่ห้อ Martin ก่อน เลย ถ้าเปรียบๆดูกับวงการพระ Martin ก็คงเป็นสมเด็จวัดระฆังก็ว่าได้ มันเป็น อูคูเลเล่ ที่ฮิตมากในอเมริกาตั้งแต่ปลายยุค 10 ก็เกือบๆร้อยปีมาแล้ว และราคาในตลาดก็อยู่ในระดับท็อปๆอยู่ มีตั้งแต่ราคาหมื่นต้นๆ ไล่ไปถึงเป็นหลายๆแสน ขึ้นอยู่กับสภาพ , รุ่น , ปี เป็น 3 ข้อที่ทำให้ราคาแตกต่างกัน และฝรั่งมั่วๆก็มักจะใช้เรื่องพวกนี้หลอกขายเราได้ เพราะมันไม่มีวันที่ระบุไว้ที่ตัวหรอกว่าถูกผลิตปีไหน? ต้องดูจากรายละเอียดเล็กๆน้อยบนตัว อูคูเลเล่ แล้วคาดเดาเอาเอง ซึ่งแต่ละสำนักก็ยังบอกไม่ตรงกันอีกต่างหาก เห็นมั๊ย..ว่านี่มันส่องพระชัดๆ

Martin อูคูเลเล่ ถูกผลิตโดยบริษัท the Martin Guitar Company of Nazareth, Pennsylvania ซึ่ง ผลิตกีตาร์มาก่อนตั้งแต่ปี 1833 โน่น.. นักเล่นกีตาร์ต้องรู้จักยี่ห้อนี้ดีอยู่แล้ว ถือเป็นกีตาร์ระดับไฮเอนด์เลยทีเดียว แต่ Martin หันมาสนใจการผลิต อูคูเลเล่ จริงๆในช่วงต้นๆยุค 1900 ซึ่งพัฒนาจากการทำกีตาร์ เป็นเหตุผลว่า อูคูเลเล่ ของ Martin จึงมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์มาก เพราะมันคล้ายกีตาร์จน อูคูเลเล่ ยุคหลังๆจะเรียกทรงนี้ว่าทรง Martin ( อูคูเลเล่ ในยุคแรกๆมาจากฮาวาย มีรูปทรงคอดๆ และใช้ไม้ Koa สีและทรงจึงเป็นเอกลักษณ์ฮาวายมากๆ )

อูคูเลเล่ ของ Martin เริ่มต้นใช้ไม้มะฮอกกานีในการผลิต ทำให้ได้เสียงที่แตกต่างจาก อูคูเลเล่ จากฮาวาย และมีเอกลักษณ์ ( แต่ Martin ก็ผลิต อูคูเลเล่ ด้วยไม้ Koa จากฮาวายด้วยเช่นกัน ) Martin เริ่มผลิต อูคูเลเล่ ขายจริงๆในปี 1916 โดย Frank Henry Martin เป็นหลานชายของ C.F. Martin ผู้ก่อตั้ง. เริ่มผลิตกันในปี 1915 แค่ 12 ตัวเท่านั้น ( อยากเห็นมากว่าเป็นยังไง ) ส่วนในปี 1916 ที่มีการขายจริงๆ Martin สามารถขายไปได้ 1,371 ตัว และยอดขายก็สูงขึ้นๆ โดยช่วงปี 1926 เป็นช่วงที่ Martin ขาย อูคูเลเล่ ได้มากที่สุด ราว 14,000 ตัวทีเดียว แล้วกลับไปตกต่ำในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ขายได้ไม่ถึงพันตัวต่อปี จนกระทั่งยุค 50 อูคูเลเล่ ก็กลับมาฮิตอีกครั้งด้วยการนักจัดรายการที่ชื่อ Arthur Godfey ที่นำเอา อูคูเลเล่ มาเล่นในรายการทีวีจนเป็นที่โด่งดัง ( อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมย้อนหลังได้จากบล็อค อูคูเลเล่ ที่รัก.. ยิ่งเก่ายิ่งน่ารัก ) ส่งผลให้ Martin กลับมาขาย อูคูเลเล่ ได้ดีอีกครั้ง ก่อนจะซบเซาจนต้องเลิกผลิตไปเลยในปลายยุค 70s.

เอาล่ะ.. เราเกริ่นข้อมูลเบื้องต้นของ Martin อูคูเลเล่ กันพอสมควรแล้ว ทีนี้จะเริ่มลงลึกในรายละเอียดการส่อง อูคูเลเล่ กันดีกว่า เริ่มจากรุ่นต่างๆของ Martin ก่อน. Martin มี อูคูเลเล่ ทั้งหมดคือ รุ่นที่เป็นขนาด Soprano ทำจากไม้มะฮอกกานี เป็นรุ่นพื้นฐาน คือ Style 0 , Style 1 , Style 2 และถ้าเป็นระดับรุ่นมือโปร จะมี 2 รุ่นคือ Style 3 และ Style 5 ( ไม่มีใครรู้ว่า ทำไมไม่ทำรุ่น 4 ? ) ต่อมาคือ รุ่นที่ทำจากไม้ Koa คือ Style 1k , 2k , 3k และ 5k ( 5k คือสุดท้ายราคาโหดมาก ) นอกจากนี้ยังมีขนาดพิเศษคือ คือ ขนาด Concert เรียกว่ารุ่น Style 1c , ขนาด Tenor เรียกว่ารุ่น Style 1T และขนาด Baritone เรียกว่า Baritone. แค่ไล่รุ่นก็อ้วกแล้วนะครับ… จะบอกว่าจริงๆมีมากกว่านี้อีก แต่ไม่ขอพูดดีกว่า มันจะยิ่งงงหนัก เอาเป็นว่าในตลาดจะส่องๆกันประมาณนี้แหล่ะ แค่นี้ก็ดูกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว

ที่มา baanukulele
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ติดต่อได้ที่


บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด

เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th

ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694

อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th
 

อูคูเลเล่: ความถูกและความแพงของอูคูเลเล่

ข้อดูของอูคูเลเล่คือ พาง่าย เล่นง่าย แล้วก็ราคาไม่แพง ตอนที่ผมบอกว่าราคาไม่แพง นักเขียนท่านนั้นก็ถามว่าแล้วอูคูเลเล่นั้นขายตั้งแต่ราคาเท่าไหร่ ไปจนถึงเท่าไหร่ ผมก็ตอบว่า ราคาเริ่มต้นของอูคูเลเล่คือสามพันกว่าบาท ขึ้นไปจนถึงสองแสนกว่าบาท นักเขียนท่านนั้นก็ตาโตแล้วก็บอกว่า จริงเหรอครับ มันแพงได้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผมก็ยิ้ม ๆ แล้วก็ตอบไปว่า ถูกกว่าไวโอลินและเปียโนตั้งเยอะนะครับ
 
นึกถึงเหตุการณ์วันนั้น วันนี้เลยอยากจะมาคุยถึงเรื่อง ความถูกและความแพงของอูคูเลเล่ ก่อนอื่นผมขออธิบายว่า คำว่า “ถูก” และ “แพง” ของแต่ละคนนั้นมีค่าไม่เท่ากัน เพราะคำว่า ถูก แพง เป็นคำที่เป็นนามธรรมมาก ๆ ครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมมติว่า ผมมีเงินอยู่ในกระเป๋า 100 บาท อยากจะทานน่้ำส้มปั่นสักหนึ่งแก้ว ก็คงจะหาซื้อได้จากร้านน้ำปั่นข้างทางในราคา 25 บาท ซึ่งผมก็คงไม่ได้รู้สึกว่ามันแพง เพราะราคาก็มาตรฐาน แต่ถ้าผมเดินเข้าไปในโรงแรม แล้วสั่งน้ำส้มปั่น ทางโรงแรมอาจจะคิดเงิน 120 บาท ซึ่งสูงกว่าเงินที่ผมมี ผมก็คงจะรู้สึกว่าน้ำส้มปั่นที่นี่ราคาแพง แต่มองไปรอบ ๆ โรงแรม ก็เห็นคนต่างชาตินั่งดื่มน้ำส้มปั่นกันเยอะแยะ ในใจผมก็คงจะนึกว่า สำหรับคนต่างชาติ น้ำส้มแก้วนี้คงไม่แพงเท่าไหร่
 
ผมเลยคิดง่าย ๆ ว่าความถูกและความแพง น่าจะขึ้นอยู่กับใครเป็นผู้ใช้ เงินในกระเป๋าที่เขามี และความจำเป็นของของสิ่งนั้น เช่นถ้าเป็นยารักษาโรค ถ้าสามารถรักษาได้เด็ดขาด ถึงแม้จะมีราคาสูง แต่ก็เชื่อว่ามีคนซื้อเพราะมีความจำเป็นสำหรับอูคูเลเล่ ราคาที่ทั่วไปในต่างประเทศขายกัน เริ่มต้นก็มักจะมีค่า threshold อยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับบ้านเรา 3,000 บาท อาจจะมีบางรุ่น บางยี่ห้อ ที่ราคาถูกกว่านี้และก็เล่นได้ดี ซึ่งก็ต้องเลือกดี ๆ แต่ถ้าถูกกว่านี้มาก ๆ ก็ให้สันนิษฐานว่าคุณภาพอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ออกไปในแนวของเล่น มากกว่าเครื่องดนตรี ในทางกลับกันอูคูเลเล่ที่ราคาสูงกว่านี้ บางรุ่น บางยี่ห้อ คุณภาพก็อาจจะไม่ถึงราคา ซึ่งผู้ซื้อก็ต้องพิจารณาดี ๆ เช่นกัน แต่เอาเป็นว่า ราคามาตรฐาน 100 เหรียญสหรัฐ เป็นค่าที่ได้รับการยอมรับว่า โอเค คุณภาพดีใช้ได้ในระดับหนึ่ง
  ข้อมูลจาก baanukulele
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
ติดต่อได้ที่
บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th

วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

อูคูเลเล่: เล่นอูคูเลเล่ให้เหมือนกีต้าร์

สำหรับคนที่เคยเล่น Guitar มาก่อน.. พอมาจับอูคูเลเล่ง่ายนิดเดียว.... ซึ่งถ้ามองเผินๆ คอร์ดของอูคูเลเล่กับกีต้าร์จับไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราลองพิจารณาให้ดีๆ จะบอกว่าเล่นเหมือนกันก็ไม่ผิดอะไร

 
จากภาพข้างบน.. ถ้าเราเอา Capo ทาบที่คอกีต้าร์เฟรทที่ 5 จะเห็นว่า สาย 1 - 4 ก็คือ อูคูเลเล่ นั่นเอง จะต่างกันที่ สาย 4 ของอูคูเลเล่จะสูงขึ้นไป 1 octave ซึ่งไม่มีผลอะไรต่อโครงสร้างคอร์ด
ทีนี้เรามาดูว่าคอร์ดของ อูคูเลเล่ กับ กีต้าร์ เหมือนกัน หรือ ต่างกันยังไง..
 
ลองเปรียบเทียบคอร์ด C ของกีต้าร์ กับ คอร์ด F ของอูคูเลเล่ ถ้าเราจับคอร์ดอูคูเลเล่ให้เหมือนคอร์ด C ของกีต้าร์โดยตัดสาย 5 - 6 ออก นั่นก็คือคอร์ด F ของ อูคูเลเล่นั่นเอง แปลว่าเสียงของโน๊ตตัว C ในตำแหน่งเดียวกัน กีต้าร์เป็น C แต่อูคูเลเล่จะเป็นเสียง F (ลองดูภาพข้างบน เฟรทที่ 1 สาย 2 ของกีต้าร์จะเป็นโน๊ต C ส่วน เฟรทที่ 1 สาย 2 ของ อูคูเลเล่เป็นโน๊ต F)





คอร์ด Dm ของอูคูเลเล่ จับเหมือน คอร์ด Am ของกีต้าร์ 
 



 คอร์ด Gm ของอูคูเลเล่ จับเหมือน คอร์ด Dm ของกีต้าร์ 

 


คอร์ด C ของอูคูเลเล่ จับเหมือน คอร์ด G ของกีต้าร์
 
 
แปลว่า อูคูเลเล่ กับ กีต้าร์ คือเครื่องคนละคีย์นั่นเอง เหมือนกับ Tenor Saxophone กับ Auto Saxophone ก็เป็นเครื่องคนละคีย์แต่เล่นเหมือนกัน ต่างกันตรงที่เสียงออกมาคนละคีย์เมื่อเล่นเหมือนกัน  ง่ายๆก็คือ ถ้าคนที่เล่นกีต้าร์ได้อยู่แล้วก็ให้เล่นอูคูเลเล่เป็นกีต้าร์ไปเลย โดยตัดสาย 5-6 ออก และเมื่อชินกับอูคูเลเล่ได้ในระดับนึงแล้วค่อยมาดูเทคนิคการเล่นโดยเฉพาะต่อไป
ที่มา ukestudio.com
 
สนใจ อูคูเลเล่, โวโอลิน, ตู้แอมป์ และเครื่องดนตรีอื่นๆ
  ติดต่อได้ที่
บริษัท บราโวมิวสิค จำกัด
เว็บไซต์ : http://www.bravomusic.co.th
ที่อยู่ : 1093/4 ถนนอรุณอมรินทร์ ศิริราช บางกอกน้อย, กรุงเทพ 10700
โทรศัพท์ : (66) 02- 866-1152, (66) 028663251
เบอร์มือถือ: (66) 082-824-6699
แฟ๊กซ์. : (66) 02- 866-0694
อีเมล์ : bravo@bravomusic.co.th